ดร.ถนอม อินทรกำเนิด
คณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านมาตรฐาน
ของคณะกรรมการการอุดมศึกษาเปิดเผยว่า
จากข้อมูลการจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งของสถาบันอุดมศึกษา
เมื่อเดือนธันวาคม 2554 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
(สกอ.) จะมีการตรวจประเมินการจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้ง
ซึ่งพบว่าจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชนจำนวน 150 แห่ง
มีสถาบันอุดมศึกษาที่แจ้งว่ามีการจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้ง จำนวน 96 แห่ง
687 ศูนย์ และ 1,000 กว่าหลักสูตร ขณะที่คณะกรรมการการอุดมศึกษารับทราบ
สถาบัน 32 แห่ง และ 45 ศูนย์ ล่าสุดข้อมูลเดือนพฤศจิกายน 2555
พบว่ามีสถาบันที่จัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งจำนวน 59 แห่ง 213 ศูนย์และ 545
หลักสูตร
"การที่สถาบันอุดมศึกษาจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งมีแนวโน้มในการลดจำนวนลง
ปิดศูนย์นอกสถานที่ตั้งและหลักสูตรลงเรื่อยๆ
ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดีว่าสถาบันอุดมศึกษาของไทยได้ตระหนักถึงคุณภาพใน
การจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งมากขึ้น
คำนึงถึงมาตรฐานและคุณภาพตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษากำหนด
ซึ่งที่ผ่านมามีมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและเอกชน แจ้งเป็นเอกสาร
หรือโทรศัพท์มาที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาว่าได้ปิดศูนย์การศึกษานอก
สถานที่ตั้งไปแล้ว
ทำให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาไม่ออกไปตรวจประเมินสถาบันนั้น
แต่ก็มีข่าวตามว่าบางแห่งกลับไม่ได้ปิดจริงตามที่แจ้ง ผมจะเสนอกกอ.
ตั้งคณะกรรมการเพื่อออกไปตรวจสอบว่าสถานบันที่แจ้งว่าปิดศูนย์นอกสถานที่
ตั้งแล้วนั้นปิดจริงหรือไม่ ถ้าให้ข้อมูลเท็จจะต้องถูกดำเนินการต่อไป"
ดร.ถนอม กล่าว
ทั้งนี้
สำหรับสถาบันการศึกษาใดที่ให้ข้อมูลเป็นเท็จนั้นจะมีบทลงโทษอยู่แล้ว
โดยในส่วนของมหาวิทยาลัยเอกชนจะถูกปรับและโทษทางอาญาส่วนมหาวิทยาลัยของรัฐ
จะถูกสอบวินัย ซึ่งถือว่ารุนแรงแล้ว โดยเฉพาะอธิการบดี
คณบดีและผู้เกี่ยวข้องโดนแน่นอน
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก