ข่าวการศึกษา

บทความการศึกษา

ข่าวเรียกบรรจุครูผู้ช่วย

ข่าวสอบพนักงานราชการ

ข่าวสอบครูอัตราจ้าง

สอบธุรการ

จี้รัฐเพิ่มครูอาชีวะ 3.6 หมื่นคน ปรับอัตราส่วนเท่าสายสามัญ



       อาชีวะ จี้รัฐเพิ่มครู 3.6 หมื่นคน รับนโยบายเพิ่มสัดส่วนอาชีวะ สามัญให้ได้ 50:50     
       นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้เข้าร่วมประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งได้มีการหารือถึงแนวทางการบริหารอัตรากำลังคนภาครัฐ ปีงบประมาณ 2556 เพื่อปรับให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศ และยุทธศาสตร์การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เพราะฉะนั้นที่ประชุมจึงมอบหมายให้แต่ละหน่วยงานไปจัดทำกรอบอัตรากำลังคน เพื่อมาเสนอในการประชุมนัดต่อไป ทั้งนี้ แต่ละหน่วยงานจะต้องทำแผนที่ระบุให้ชัดเจนว่า กำลังคนที่จะขอนั้นจะเข้ามาตอบสนองยุทธศาสตร์ประเทศ และยุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมก้าวสู่ประชาคมอาเซียนได้อย่างไร ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีข้าราชการอยู่ทั้งหมด 2.72 ล้านคน แต่น่าสนใจ คือ มี 3 หน่วยงานที่มีความต้องการกำลังคนภาครัฐมากที่สุด คือ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ต้องการอัตราครู 33,000 คน กระทรวงสาธารณสุข ต้องการอัตราบุคลากร 31,436 คน และ อัตราตำรวจ 25,000 คน
   
       นายชัยพฤกษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ปัจจุบันมีจำนวนครูอยู่ทั้งหมด 16,000 คน รับผิดชอบนักเรียนทั้งหมด 900,000 คน ซึ่งไม่เพียงพอ ต้องจ้างครูเพิ่มอีก 8,000 คนเพื่อปรับสัดส่วนครูต่อนักเรียน ให้อยู่ที่ 30:1 คน จากปัจจุบันอยู่ที่ 43:1 คน ซึ่งจำนวนที่ความต้องการครูของสอศ. เท่ากับจำนวนครูอัตราจ้างที่ทางวิทยาลัยจ้างอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสัดส่วนนักเรียนสายสามัญ กับสายอาชีพอยู่ที่ 62: 38 มีจำนวน แต่ถ้ารัฐบาลต้องการเพิ่มจำนวนนักเรียนสายอาชีพต่อสายสามัญเป็น 50:50 จะต้องเพิ่มจำนวนครูประมาณ 36,000 คน
   
       “นอกจากปัญหาขาดแคลนอัตรากำลังคนแล้ว ตอนนี้ยังมีปัญหาว่าในระบบมีข้าราชการที่มีอายุอยู่ในช่วง 57 ปีจำนวนมาก ซึ่งเท่ากับว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าจะมีข้าราชการระดับสูงเกษียณอายุราชการจำนวนมาก จะเป็นสาเหตุให้หน่วยงานราชการต่าง ๆ ขาดแคลนกำลังคนที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งปัญหานี้เกิดจากนโยบายที่รัฐบาลไปจำกัดจำนวนข้าราชการ ใน 10 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ที่ประชุมมอบหมายให้ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่กำลับดูแลเรื่องดังกล่าว ไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอแนวทางแก้ปัญหาในการประชุมครั้งวันที่ 15 มกราคม 2556” นายชัยพฤกษ์ กล่าว



ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น