นางรัตนา ศรีเหรัญ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
(ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ได้อนุมัติร่างกฎสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือ
ต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
เสนอ ซึ่งจะส่งผลให้ข้าราชการครูได้รับเงินเดือนเพิ่ม 1 ขั้น
ทั้งนี้ สาระสำคัญ คือ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับ
เงินเดือนเดิมสามารถรับเงินเดือนในอันดับถัดไปได้อีก 1 อันดับ ประกอบด้วย
ผู้ที่ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงอันดับ คศ.2 จะสามารถรับเงินเดือนของอันดับ
คศ.3 ส่วนผู้ที่ได้รับเงินเดือนขั้นสูงของอันดับ คศ.3
จะขยับไปรับเงินเดือนของอันดับ คศ.4 ผู้ที่ได้รับเงินเดือนขั้นสูงของอันดับ
คศ.4 จะขยับไปรับเงินเดือนในอันดับ คศ.5
ขณะที่ข้าราชการครูที่ไม่มีขั้นหรืออัตราเงินเดือนที่ได้รับอยู่เดิม
จะได้รับขั้นหรืออัตราเงินเดือนใกล้เคียงในจำนวนที่สูงกว่า
โดยมีผลย้อนหลังไปก่อนวันที่ 1 เม.ย. 2554 โดยทาง ก.ค.ศ.
เตรียมเสนอนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา
รมว.ศธ.ลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ครู
ด้านชมรมครูอัตราจ้างตามโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2
หรือเอสพี 2 ร้องเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่า
ไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะไม่สามารถสมัครสอบบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการครู
ซึ่งเปิดรับสมัครวันที่ 6-12 ธ.ค.ที่ผ่านมา และกำหนดสอบในวันที่13 ม.ค.
2556
นายอมรรัตน์ ทองสาดี ประธานชมรมครูอัตราจ้างฯ กล่าวว่า
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)
ทำสัญญาจ้างครูกลุ่มนี้ปีต่อปี แต่กลับไม่สามารถสมัครได้
เนื่องจากไม่ได้เป็นครูอัตราจ้างตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด โดย
สพฐ.
ให้เหตุผลว่างบประมาณที่จ้างครูกลุ่มนี้เป็นเงินนอกงบประมาณที่กู้มาจากต่าง
ประเทศ
"ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ช่วยเหลือครูกลุ่มนี้ให้มีสิทธิสมัครและเข้าสอบบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการ
ได้ รวมถึงขอให้พิจารณาให้ครูกลุ่มนี้ได้รับค่าครองชีพ 1.5
หมื่นบาทตามนโยบายรัฐบาล โดยให้ได้รับเงินย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1
ม.ค.ที่ผ่านมา เหมือนกับลูกจ้างโครงการอื่นๆและเมื่อปฏิบัติการสอนครบ 3 ปี
ได้บรรจุเข้าสู่ตำแหน่งพนักงานราชการด้วย" นายอมรรัตน์กล่าว m
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์