ข่าวการศึกษา

บทความการศึกษา

ข่าวเรียกบรรจุครูผู้ช่วย

ข่าวสอบพนักงานราชการ

ข่าวสอบครูอัตราจ้าง

สอบธุรการ

ทีดีอาร์ไอชำแหละการศึกษาไทยงบเยอะ-ล้มเหลว/โยกเสมา 1 บ่อย

          "ทีดีอาร์ไอ" ชำแหละคุณภาพการศึกษาไทย ชี้เปลี่ยนตัว รมว.ศึกษาฯบ่อยทำให้งานขาดความต่อเนื่อง จี้ผู้บริหารการศึกษาร่วมรับผิดชอบผลคะแนนสอบตกต่ำ เผยไทยใช้งบฯลงทุนด้านการศึกษามหาศาลแต่ยังไม่เห็นผล แนะสอบวัดมาตรฐานนักเรียนให้มีผลต่อการเลื่อนชั้นและให้มีผลต่อ โรงเรียน-เงินเดือนครู
          เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.55 ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวบรรยายเรื่อง "เราจะปฏิรูปการศึกษาไทยเพื่อให้เกิดสัมฤทธิผลของการเรียนรู้อย่างไร"ในงาน ประชุมวิชาการ ประจำปี 2555 เรื่อง "การวิจัยสถาบันกับกระบวนการจัดการเรียนรู้สู่อนาคต" จัดโดยสมาคมวิจัยสถาบันและพัฒนาอุดมศึกษา(สวพอ.) ว่า ปัญหาการศึกษาไทยมีความซับซ้อนหลายอย่างทำให้การปฏิรูปการศึกษาไม่คืบหน้า เท่าที่ควร ทั้งเหตุจากนโยบายการศึกษาการปรับเปลี่ยน รมว.ศึกษาธิการ และข้าราชการระดับสูงบ่อยขณะที่กลุ่มโรงเรียน กลุ่มครู กลุ่มนักเรียนและภาคธุรกิจก็จะมีปัญหาแยกย่อยกันไป
          อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเหตุของปัญหาการศึกษาประเทศไทยว่าเป็น เพราะเรามีทรัพยากรไม่เพียงพอ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงเพราะหากดูจากสถิติจะพบว่างบประมาณ กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ได้เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2546 จำนวน 1.7 แสนล้านบาท สูงขึ้นเรื่อยๆจนในปีงบฯ 2555 เป็น 4 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งถือว่าเราใช้ทรัพยากรเพิ่มขึ้นตลอด แต่หากเทียบงบฯการศึกษาไทยกับนานาประเทศ จะพบว่าไทยใช้สัดส่วนงบฯการศึกษาต่อจีดีพีใกล้เคียงกับหลายประเทศ อาทิ ประเทศญี่ปุ่นเกาหลีใต้ ฮ่องกง ส่วนสิงคโปร์ใช้น้อยกว่า และเวียดนามใช้มากกว่าไทยเล็กน้อย ดังนั้นถือว่าเราไม่ได้ใช้งบฯการศึกษาน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อเทียบสัดส่วนงบฯ ต่อจีดีพี
          ดร.สมเกียรติ กล่าวต่อว่า ยังมีข้อสงสัยว่าเหตุของปัญหาคุณภาพการศึกษาอาจเป็นเพราะครูมีรายได้ต่ำหรือ ไม่ เรื่องดังกล่าวหากเป็นในอดีตอาจเป็นความจริงแต่ปัจจุบันมีข้อเท็จจริงว่า เงินเดือนครูโรงเรียนรัฐบาล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ได้ปรับเพิ่มเงินเดือนขึ้นเรื่อยทุกปี อย่างบางคนเมื่อปี 2544 ได้จำนวน 19,000 บาท ล่าสุดก็ได้ปรับขึ้นเกือบ 30,000 บาทแล้ว ดังนั้นเรื่องเงินเดือนครูไม่น่าเกี่ยวส่วนจะเป็นกรณีนักเรียนไทยมีชั่วโมง เรียนน้อยไป จึงทำให้มีปัญหาเรื่องสัมฤทธิ์ผลหรือไม่นั้น เรื่องนี้มีข้อมูลจากโครงการประเมินผลการศึกษาของประเทศสมาชิกองค์การเพื่อ ความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ว่า หากเทียบชั่วโมงการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์เด็กไทยมีชั่วโมงเรียนมากกว่าเมื่อ เทียบกับนานาประเทศ แต่ปรากฏว่าผลการประเมินนักเรียนนานาชาติ หรือพิซา กลับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ดังนั้นอาจสรุปได้ว่าเรื่องงบฯ การศึกษา รายได้ครู และจำนวนชั่วโมงเรียนไม่ได้ทำให้คุณภาพการศึกษาตกต่ำ
          ดร.สมเกียรติ เปิดเผยว่า หากดูที่ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนทั้งการประเมินPISA และTIMSS 2011 ซึ่งเป็นข้อสอบมาตรฐานนานาชาติ พบว่า เด็กไทยมีคะแนนเฉลี่ยที่มีแนวโน้มลดลงทั้งสิ้น ขณะที่การทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ซึ่งเป็นข้อสอบมาตรฐานของประเทศเด็กไทยก็มีคะแนนเฉลี่ยต่ำลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อดูคะแนนสอบข้างต้นที่อยู่ในช่วงขาลง ก็ดูจะไม่สอดคล้องกับการใช้ทรัพยากรทางการศึกษาที่เพิ่มขึ้นและการมีชั่วโมง เรียนมากดังนั้นจากการวิเคราะห์ของทีดีอาร์ไอเห็นว่าเหตุของปัญหาคุณภาพการ ศึกษาตกต่ำ น่าจะมาจากการขาดความรับผิดชอบ อย่างกรณีหากมีผลในทางใดทางหนึ่งต่อการศึกษาบุคคลผู้ที่รับผิดชอบนั้นก็ต้อง มีผลต่อเนื่องเพื่อให้เกิดแรงกระตุ้น
          "ที่ผ่านมาเมื่อมีการประกาศผลสอบต่างๆ อย่างผลสอบ O-NET ที่เด็กไทยตกกันทั้งประเทศ สุดท้ายก็เงียบ ล่าสุดกับผลวิจัยคะแนนสอบ TIMSS 2011 ที่เด็กไทยมีคะแนนตกต่ำ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรื่องนี้สะท้อนว่าเรายังขาดระบบความรับผิดชอบ ทำให้ไม่มีใครที่จะเดือดเนื้อร้อนใจที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างไรก็ตาม เรามีข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษาให้มีคุณภาพ คือ การที่ผู้ปกครองนักเรียนเข้าไปมีส่วนร่วมกำกับการจัดการศึกษาของโรงเรียนรวม ถึงการกระจายอำนาจบริหารจัดการไปยังโรงเรียน พร้อมกำหนดมาตรการการรับผิดชอบ การสร้างแรงจูงใจให้ครูด้วยการเชื่อมโยงผลสัมฤทธิ์การสอบมาตรฐาน กับการพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือน และการปรับระบบจัดสรรงบฯ ให้โรงเรียนทุกสังกัดอย่างเท่าเทียมเพื่อแข่งขันกันได้"
          ดร.สมเกียรติ กล่าวว่า มีข้อเสนอทางนโยบายของทีดีอาร์ไอ ได้แก่ อยากให้มีนโยบายการจัดสอบมาตรฐานทุกชั้นเรียนหรือทุกช่วงชั้นและให้มีผลต่อ การเลื่อนขึ้นชั้นเพราะอย่างระบบปัจจุบันเมื่อเด็กสอบตก โรงเรียนก็จัดสอบซ่อมใหม่จนผ่าน สุดท้ายคือการส่งเด็กไม่พร้อมไปสู่ชั้นเรียนที่สูงขึ้น ควรมีการเปิดเผยผลการสอบข้อสอบมาตรฐานของโรงเรียนเทียบกับโรงเรียนใกล้เคียง โรงเรียนระดับจังหวัดและประเทศให้ผู้ปกครองได้รับทราบเพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน เสนอให้ลดการประเมินคุณภาพภายนอกแบบเดิมของสมศ. เพราะใช้ต้นทุนการประเมินสูง แต่ผลลัพธ์กลับสวนทางความจริงที่เป็นอยู่และควรใช้ผลการสอบมาตรฐานของนัก เรียนมาประเมินครูและโรงเรียน อีกทั้งนำมาเชื่อมโยงกับการพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนครู โดยดูจากพัฒนาการของคะแนนสอบ เพื่อลดความได้เปรียบเสียเปรียบความสูงต่ำของคะแนนสอบจากความต่างทางบริบท ของโรงเรียน

          ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

แสดงความคิดเห็น