ดร.สมบัติ สุวรรณพิทักษ์
รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
กล่าวในการบรรยายพิเศษเรื่องการวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพวิชาชีพครู
จัดโดยคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ว่า
การเป็นครูในสายวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ต้องเก่งในสาขาที่เรียน
นอกจากเนื้อหาวิชาการต้องแม่นยำ ยังต้องมีวิธีการถ่ายทอดที่เก่ง
รู้จักที่จะจัดระบบความคิดเพื่อการถ่ายทอด
และต้องมีคุณธรรมจริยธรรมของความเป็นครู
ต้องมีหัวใจของการทำงานร่วมกับครูคนอื่นๆ ในโรงเรียน
และต้องสร้างเครือข่ายการทำงานทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียนให้ได้
ไม่ชิงดีชิงเด่นกัน หากแต่ต้องรู้จักที่จะทำงานแข่งกับตัวเองให้มาก
"ผมอยากเห็นสถาบันการศึกษาที่ผลิตครูมีวิชาที่ทันสมัย
อย่างวิชาที่จะสร้างภูมิคุ้มกันที่จะช่วยให้นิสิตนักศึกษาซึ่งเรียนในคณะ
ศึกษาศาสตร์ ครุศาสตร์ และต้องออกไปเป็นครู
มีภูมิคุ้มกันให้รู้เท่าทันระบบทุนนิยม
บริโภคนิยมที่กระตุ้นให้คนในยุคปัจจุบันอยากมี อยากได้ อยากเป็น
แล้วต้องเอารัดเอาเปรียบคนอื่น
ผมไม่ได้ปฏิเสธให้ครูไทยต้องใช้ชีวิตรันทดหรือไม่ต้องใช้จ่ายเสียสละตัวเอง
จนมีชีวิตที่ลำบาก หากแต่ขอให้รู้เท่าทันระบบบริโภคนิยม" ดร.สมบัติกล่าว
รองปลัด ศธ.กล่าวว่า
นอกจากนี้อยากเห็นสถาบันการศึกษาสอนเรื่องแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อให้นิสิตที่จะออกไปเป็นครูในอนาคตรู้จักการใช้ชีวิตที่พอเพียง
มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองมี ตัวเองเป็น
ตลอดถึงต้องสอนให้นิสิตมีความรู้เกี่ยวกับอาเซียนด้วย ทั้งนี้
ภาษาอังกฤษยังต้องเป็นภาษาหลักที่นิสิตนักศึกษาในวิชาชีพครูต้องเรียนรู้
แต่ภาษาเพื่อนบ้าน อย่างภาษาเขมร ลาว เวียดนาม มลายู ก็จำเป็นต้องเรียนรู้
หากต้องไปเป็นครูในพื้นที่ซึ่งต้องใช้ภาษาของเพื่อนบ้าน
ดร.สมบัติกล่าวว่า
เมื่อต้องไปเป็นครูในโรงเรียนครูรุ่นใหม่ต้องมีความกระตือรือร้น
ลงพื้นที่พบเด็กๆ สิ่งที่พบสามารถนำมาทำเป็นงานวิจัยในท้องถิ่นของตัวเองได้
ไม่ว่าจะเป็นวิชาใดๆ
สามารถนำมาประยุกต์เชื่อมโยงถึงการวิจัยในชั้นเรียนได้ทุกรายวิชา
ขอเพียงครูมีความตั้งใจจริง รักในอาชีพ
ขยันและรู้จักสังเกตก็สามารถนำเรื่องราวรอบๆ ตัวมาสร้างงานวิจัยของตัวเอง
อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อตัวเอง ชุมชนและสังคมอีกด้วย
จึงขอให้ทำงานวิจัยควบไปกับการเรียนการสอน
ที่มา: http://www.matichon.co.th/khaosod