เหตุการณ์คนร้ายยิง "นางวันทนา แก้วจันทร์" ผู้อำนวยการโรงเรียน (ผอ.ร.ร.) ท่ากำชำ จ.ปัตตานี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้สมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีมติให้ปิดโรงเรียนในพื้นที่กว่า 300 โรงเรียน เนื่องจากไม่มั่นใจความปลอดภัย พร้อมกับเสนอ 8 ข้อที่เป็นเงื่อนไขหากต้องการให้โรงเรียนเปิดสอนตามปกติ และความรู้สึกของครูในพื้นที่ จ.ปัตตานี ในขณะนี้เป็นอย่างไร
นายหัสธรรม จินดารันต์ ผอ.ร.ร.บ้านกอแลบีและ กล่าวว่า การทำงานท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน ครูทุกคนมีความกังวล ระหว่างที่เดินทางออกจากบ้านไปโรงเรียนไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะว่าฝ่ายตรงข้ามอยู่ในที่มืดครูอยู่ในที่แจ้ง ฉะนั้นทุกคนมีความกังวลมากในสถานการณ์ปัจจุบัน
"เมื่อก่อนที่ไม่มีสถานการณ์ ครูเดินทางไปโรงเรียนตั้งแต่เช้า กลับก็ค่ำ ถ้ามีงานต้องทำ แต่ตอนนี้จะไปโรงเรียนเช้าเกินก็ไม่ได้ กลับบ้านค่ำก็ไม่ได้ ระหว่างเดินทางก็ต้องระวังตลอดเส้นทาง เพราะในแต่ละวันมีเหตุการณ์ที่อาจจะมีผลกระทบมาถึงครู ระหว่างที่ทำหน้าที่สอนเด็กอยู่ที่โรงเรียนก็กังวล เพราะในช่วงนี้มีเพียงครูกับนักเรียนเท่านั้น เจ้าหน้าที่หมุนเวียนมาดูแล แต่ไม่มาประจำตลอดทั้งวัน"
ส่วนเรื่องสวัสดิการที่ได้รับนั้น ผอ.หัสธรรม กล่าวว่า เทียบกันไม่ได้กับความเสี่ยงในการทำหน้าที่ แต่ถ้าถามครูในพื้นที่ระหว่างสวัสดิการที่ได้รับกับความปลอดภัย ครูต้องการความปลอดภัยมากกว่า เพราะความไม่ปลอดภัยทำให้ครูเกิดความเครียด สวัสดิการที่ได้รับเป็นส่วนที่ช่วยเสริมเท่านั้นเอง แต่หลักๆ ที่ครูต้องการคือ ความปลอดภัย
"ส่วนตัวผมถ้าให้เลือกระหว่างสวัสดิการที่ได้รับกับความปลอดภัย ผมไม่เลือกหรอกสวัสดิการ ผมเลือกความปลอดภัยมากกว่า"
ส่วนผลกระทบต่อเด็กนักเรียนนั้น ผอ.หัสธรรม กล่าวว่า กระทบแน่นอน ในฐานะเป็นผู้บริหาร จะทำอย่างไรที่จะให้ครูที่โรงเรียนพึงพอใจ มีความพร้อมที่จะทำงาน แต่ในสถานการณ์อย่างนี้ ครูก็ทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ ทำงานไป ก็ต้องเหลียวหลังแลหน้า ถึงเวลาก็ต้องรีบกลับบ้าน แม้ว่าเวลาในการสอนจะไม่ได้ลดลงก็ตาม เพราะทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ก็เตือนกันให้ระวังตัวเอง เหมือนกับภัยมืดที่เราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เราอยู่ในที่สว่าง เขาอยู่ในที่มืด
สอดคล้องกับ นายวีรศักดิ์ จินดารัตน์ ผอ.ร.ร.บ้านจือโระ เล่าว่า การปฏิบัติหน้าที่ของครู ทุกครั้งที่ออกจากบ้านต้องสั่งลูกสั่งเมีย เพราะไม่รู้ว่าจะได้กลับบ้านหรือเปล่า มันเป็นเรื่องธรรมดามากตอนนี้ เพราะสถานการณ์ในพื้นที่มันแรงมาก เคยพูดที่กรุงเทพฯ ประมาณ 2-3 ปีกว่ามาแล้ว ว่าตอนนี้ครูในพื้นที่ถูกสกัด ถูกบล็อก ไม่ให้สามารถเข้าไปสอนในโรงเรียน อำนาจรัฐอยู่ตรงไหน ความเป็นชาติไทยอยู่ตรงไหน เพราะการแสดงเชิงสัญลักษณ์ว่าพื้นที่นั้นเป็นผืนแผ่นดินไทยต้องมีธงชาติไทย ซึ่งพื้นที่รอบนอกที่มีธงชาติ และเพลงชาติไทย มีอยู่ 2 แห่ง คือโรงเรียน และสถานีอนามัย แต่ถ้าวันหนึ่งธงชาติไทยหรือเพลงชาติไทยไม่มีที่โรงเรียนจะเกิดอะไรขึ้นกับ ประเทศนี้
"ตอนนี้หน่วยราชการเกือบทุกหน่วยลอกสติกเกอร์หน่วยงานของตัวเองที่ติดรถยนต์ ออกหมด เพราะกลัวไม่ปลอดภัย แต่ครูยังคงทำหน้าที่เดินทางเข้าไปสอนเหมือนเดิม ชีวิตครูในพื้นที่คล้ายกับลูกแกะที่อยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่า จะเดินออกไปหน้าโรงเรียนก็ไม่กล้า ถามว่าจะเอากำลังใจที่สอนหนังสือ เพราะต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ยิ่งมีครูเสียชีวิตร่วงหล่นเหมือนใบไม้ อย่างกรณีผอ.วันทนา ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง เปรียบเหมือนไข่ในหิน จะต้องมีระบบป้องกันความปลอดภัยสูง" นายวีรศักดิ์ กล่าว
ส่วนเรื่องสวัสดิการที่ได้รับ ผอ.วีรศักดิ์ กล่าวว่า มีครั้งหนึ่งเคยพาครูในโรงเรียนไปทัศนศึกษาที่ภาคอีสาน เพื่อนครูภาคอีสานพูดว่าอิจฉาครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีค่าเสี่ยงภัย ผมก็เลยบอกว่าอย่าอิจฉาเลย เงินเสี่ยงภัยเขาไม่ได้ให้ครู แต่เขาให้กับพื้นที่ ใครก็ตามที่ลงไปทำหน้าที่ในพื้นที่ใครก็ตามที่มาอยู่ในพื้นที่นี้ก็จะได้รับ เงินนี้
"ผมบอกเพื่อนครูภาคอีสานไปว่า หากท่านต้องการได้รับเงินนี้ ท่านขอย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ท่านก็จะได้รับเงินนี้ เขาก็บอกว่าให้มากกว่านี้เขาก็ไม่มา ผมบอกไปว่าถ้าอย่างนั้นท่านต้องเห็นใจคนที่อยู่ในพื้นที่ ต้องให้เขา เงินแค่ 2,500 บาท หรือ 3,500 บาทซื้อกับความปลอดภัย ซื้อกับขวัญและกำลังใจแต่ละวัน ผมถามว่าจะมีใครกล้ามาอยู่ ฉะนั้นความปลอดภัยเป็นเรื่องที่ครูในพื้นที่ต้องการ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นต้องเข้ามาดู" ผอ.วีรศักดิ์ กล่าว
เหนืออื่นใด นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า รัฐจะต้องให้ความเชื่อมั่นให้คุณครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงพี่น้องประชาชนด้วยในเรื่องของความปลอดภัย ต่อมาต้องดูแลคุณภาพชีวิตให้เหมาะสมที่ครูอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย คนนอกพื้นที่อย่าดีแต่พูดแต่พอบอกว่าจะสลับสับเปลี่ยนเข้ามาอยู่ในพื้นที่ ทุกคนไม่กล้าเข้ามา ฉะนั้นคุณครูที่อยู่ทุกวันนี้รัฐบาลจะต้องเข้ามาดูเขาบ้าง เพราะอย่างน้อยเขาเป็นคนไทยคนหนึ่งที่เสียสละ และทำหน้าที่ท่ามกลางความไม่ปลอดภัยให้มากกว่าเดิม โดยเฉพาะด้านสวัสดิการ เพื่อให้เขาเหล่านี้มีขวัญและกำลังใจ มีคุณภาพชีวิตที่ดี
"วันนี้พวกผมทำหน้าที่ไม่ไปสอนนักเรียน ก็ถูกสังคมหาว่าไม่รับผิดชอบ ไปแล้วไปตาย ถามว่ามันคุ้มค่ากันมั้ยกับสิ่งที่ได้รับเมื่อเปรียบเทียบกับหน่วยงานอื่นๆ ผมเข้าใจว่าคนที่คิดแบบนี้มีน้อยมาก เพราะทุกคนจะเข้าใจและเห็นใจคุณครูอยู่แล้ว ตรงนี้ให้เข้าใจว่าวันนี้ไม่ได้ขอเพื่อตัวเอง แต่ขอเพื่อความอยู่รอดของประเทศ อยากให้คนที่พูดรู้ให้ลึก รู้ให้ซึ้ง อย่ารู้แค่ผิวเผิน ให้เงินผม 10 ล้านบาท แล้วผมต้องตายพรุ่งนี้ผมก็ไม่เอา ใครจะเอาความตายมาแลกกับความเป็นอยู่นี้ ที่ทำเพื่อรักษาความมั่นคงให้คนในพื้นที่ ได้มีคุณภาพการศึกษาที่ดี ผมพูดเสมอว่า ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีอะไรดีที่สามารถแก้ปัญหาได้เท่ากับการศึกษา" ประธานสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวทิ้งท้าย
.......................................
('ความปลอดภัย'สิ่งมีค่าที่ครูใต้ต้องการ : โดย...สมชาย สามารถ ศูนย์ข่าวภาคใต้)
ที่มา : คมชัดลึก