นายชินภัทร ภูมิรัตน
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)
กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
ว่า สพฐ.จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการโรงเรียนนิติบุคคล
เพื่อชี้แจงทิศทางการบริหารและระดมความคิดเห็นจากผอ.โรงเรียน
โดยสพฐ.คัดเลือกโรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก จำนวน 58 โรง
แบ่งเป็นโรงเรียนประถมศึกษา 28 โรง อาทิ อนุบาลระยอง อนุบาลสามเสน เป็นต้น
โรงเรียนมัธยมศึกษา 30 โรง อาทิ ร.ร.สามเสนวิทยาลัย ร.ร.สตรีวิทยา
ร.ร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เป็นต้น
โดยมีแนวคิดที่จะมีระบบบริหารจัดการโรงเรียนที่มีความคล่องตัว
ใช้ประสบการณ์ของโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ จ.กาญจนบุรี
เป็นต้นแบบในการบริหารงาน
เพื่อให้โรงเรียนมีทรัพยากรพัฒนาคุณภาพอย่างเต็มที่
มีความคล่องตัวทั้งด้านวิชาการ งานบุคคล และงบประมาณ
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวต่อว่า การประชุมแบ่งงานเป็น 2
ส่วน คือ 1.ทั้ง 58 โรงเรียน ต้องไปจัดทำธรรมนูญของโรงเรียน
ซึ่งเป็นพันธสัญญาว่า จะบริหารงานตามเป้าหมายให้ผู้ปกครอง และชุมชน
มีส่วนร่วม 2.โรงเรียนแต่ละแห่งต้องจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี มีตัวชี้วัด
ครอบคลุมนักเรียน ตัวชี้วัดครู และเป้าหมายที่ใช้วัดความสำเร็จ
"สพฐ.ต้องให้โรงเรียนมีอิสระอย่างแท้จริง โดยดำเนินการใน 3 เรื่อง คือ
1.ให้มีความคล่องตัวด้านการเงินมากขึ้น และต้องหารือกับสำนักงบประมาณ
หาแนวทางอุดหนุนโรงเรียนเป็นเงินก้อนให้โรงเรียนทั้ง 58 โรง
ดำเนินการตามภารกิจ และให้เบิกตรง ไม่ต้องผ่านเขตพื้นที่การศึกษา
2.การบริหารบุคลากร ให้คณะกรรมการสถานศึกษามีส่วนในการสรรหาผอ.โรงเรียน
และคัดเลือกครูมาสอน และ 3.ด้านวิชาการ
ให้โรงเรียนมีอิสระเปิดโปรแกรมพิเศษต่างๆ ทั้งนี้
ถือเป็นความคืบหน้าในการพัฒนาโรงเรียนไปสู่นิติบุคคล
สพฐ.มอบการบ้านให้โรงเรียนทั้งหมดไปทำ โดยจะเริ่มในปีการศึกษา 56
เราต้องผ่อนคลายบางอย่างที่เป็นอุปสรรคให้กับโรงเรียนที่พร้อมจะโต
หากไร้ข้อจำกัด โรงเรียนก็จะโตได้เอง" นายชินภัทรกล่าว
--ข่าวสด ฉบับวันที่ 9 พ.ย. 2555 (กรอบบ่าย)--