โดยการจัดซื้อจะแบ่งแท็บเล็ต ออกเป็น 4 กอง แยกระหว่าง ป.1 และ ม.1 กลุ่มละ 2 กองๆ ละประมาณ 400,000 เครื่อง ทั้งนี้จะใช้วิธีการจัดซื้อแบบอี-ออกชั่น โดยผู้ที่เข้าประมูลสามารถเข้าเสนอราคาได้ทุกกอง ซึ่งจะมีการประมูลอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปหารือกับกรมบัญชีกลาง เพื่อจัดทำรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างต่อไป
"การ ใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้างรูปแบบดังกล่าว จะทำให้เกิดการแข่งขัน เพื่อจะได้มั่นใจว่าเราจะได้ราคาที่ดีที่สุดที่ผู้เข้าประมูลเสนอ ซึ่งผมหวังว่าจะมีผู้เข้าร่วมแข่งขันจำนวนมาก และได้ราคาที่ดีสุด ตลอดจนมีความโปร่งใสที่สุดเช่นกัน โดย ศธ.ได้เปิดโอกาสให้ทุกบริษัทไม่ว่าในไทย หรือต่างประเทศ มีสิทธิ์เข้าร่วมประมูลทุกบริษัท"
นายพงศ์เทพ กล่าวและว่า ที่ประชุมได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปจัดทำปฏิทินกำหนดการต่างๆ เพื่อจะส่งมอบแท็บเล็ตให้แก่นักเรียนก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556
เมื่อถามถึงการกู้ยืมเงินจากประเทศจีน เพื่อมาจัดซื้อแท็บเล็ตแจกให้แก่นักเรียนทุกระดับชั้น นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลจะต้องเป็นผู้พิจารณา ทั้งนี้การจัดซื้อให้นักเรียนครบทุกระดับชั้น อาจจะดำเนินการได้ในปีการศึกษา 2557
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าว ว่า สาเหตุที่ต้องแยกแท็บเล็ต ออกเป็น 4 กอง เพราะแต่ละระดับชั้นมีสเปกที่ต่างกัน และต้องจัดจำนวนให้พอเหมาะกับจังหวัดต่างๆ ส่วนการดำเนินการนั้นจะมีการดำเนินการแบบอี-ออกชั่น แต่รายละเอียดจะเป็นการอี-ออกชั่น แบบครั้งเดียว และมีหลายสัญญาตามโซนต่างๆ หรือจะเป็นการโอนงบประมาณมาเบิกจ่ายแทนกันนั้น ทาง สพฐ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปประชุมเชิงปฏิบัติการกับกรมบัญชีกลางในสัปดาห์ หน้า ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะเสนอ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อพิจารณาต่อไป
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีการเสนอให้มีการจัดซื้อแบบ 5 โซน เหตุใดจึงเปลี่ยนการจัดซื้อเป็น 4 กอง นายชินภัทร กล่าวว่า การแบ่งการจัดซื้อเป็น 5 โซน เป็นข้อเสนอของ สพฐ. ที่มองในเรื่องความสะดวกของการขนส่งเป็นหลัก และรวมการจัดซื้อของ ป.1 และ ม.1 เข้าด้วยกัน แต่ที่ประชุมเห็นว่าสเปกของแต่ละระดับชั้นมีความต่างกัน จึงควรแยกการจัดหาเครื่อง
นายเอนก รัตน์ปิยะภาภรณ์ ที่ปรึกษา สพฐ. ด้านเทคโนโลยีการสอน กล่าว ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำสเปกของเครื่องแท็บเล็ตที่จะแจกให้แก่นักเรียนใน ปีการศึกษา 2556 ซึ่งโดยรวมจะไม่แตกต่างกับการจัดซื้อในล็อตที่ผ่านมา แต่จะมีการเพิ่มเติม อาทิ กล้องหลัง เพื่อให้สะดวกต่อการแสกนบาร์โค้ดวิชาในการเรียนการสอนของครู หน่วยความจำของเครื่องจากเดิม 512 MB เป็น 1 กิกะไบต์ ความเร็วจากเดิม 1.2 กิกะเฮิรตซ์ เป็น 1.5 กิกะเฮิรตซ์ เป็นต้น ส่วนราคากลางของเครื่องที่ตั้งไว้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,880 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับราคาเครื่องของปีที่ผ่านมา
ที่มา : สยามรัฐ
