ข่าวการศึกษา

บทความการศึกษา

ข่าวเรียกบรรจุครูผู้ช่วย

ข่าวสอบพนักงานราชการ

ข่าวสอบครูอัตราจ้าง

สอบธุรการ

โอกาสสุดท้าย นศ.ม.อีสาน เรียนครบได้จบแน่!!


วันนี้ (13 พ.ย.)  รศ.ดร.สุมนต์ สกลไชย อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยอีสาน(มอส.) ในฐานะผู้ชำระบัญชี มอส. เปิดเผยว่า ภายหลังมีการเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งมอส.เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้นักศึกษาจำนวนหนึ่งได้รับผลกระทบกรณีไม่ได้รับสิทธิ์การขอรับรอง ปริญญาจากที่ประชุมคณะกรรมการควบคุม มอส. เนื่องจากเหตุขัดข้องในกระบวนการภายในของ มอส.ทำให้ไม่สามารถเสนอรายชื่อนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาแล้วได้ทันในการ ประชุมคณะกรรมการควบคุมฯ เมื่อวันที่ 30 ต.ค.55 ซึ่งเป็นการประชุมนัดสุดท้ายในฐานะสภามหาวิทยาลัย ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาและเยียวยานักศึกษา ตนได้หารือเบื้องต้นกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) แล้ว และเตรียมดำเนินการรวบรวมรายชื่อนักศึกษาที่เข้าข่ายสมควรได้รับสิทธิ์ในการ สำเร็จการศึกษา ประกอบด้วย กลุ่มนักศึกษาระดับปริญญาตรี ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะสำเร็จการศึกษาและได้รับความเห็นชอบให้สำเร็จการ ศึกษาและมีการลงนามรับรองการเรียนครบหลักสูตรแล้ว กลุ่มนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพครู ที่เรียนครบตามหลักสูตร ผ่านการฝึกสอนครบถ้วนถูกต้อง ผ่านการสอบประมวลความรู้ และผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการประจำบัณฑิตวิทยาลัยแล้ว กลุ่มนักศึกษาระดับปริญญาโท ที่เรียนครบตามหลักสูตร ผ่านการสอบและได้ส่งรายงานเล่มวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ(เล่มดำ)แล้ว และกลุ่มนักศึกษาทุกระดับที่ผ่านการศึกษาตามหลักสูตรครบถ้วนตั้งแต่ก่อนการ เข้าควบคุมมหาวิทยาลัย โดยนักศึกษาต้องมีหนังสือรับรองสำเร็จการศึกษาและมีรายงานผลการศึกษาหรือ ทรานสคริปต์ว่าสำเร็จการศึกษาแล้ว
“โดย ผู้ที่มีคุณสมบัติเข้าข่ายตามที่ระบุไว้จะต้องมาแสดงตนและยื่นเอกสารประกอบ ณ อาคารแสวงการ มอส. ในวันที่ 15-16 และ 18 พ.ย.55 โดยนักศึกษาสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการและเอกสาร สำคัญที่ต้องนำมาประกอบ พร้อมดาวน์โหลดแบบฟอร์มแสดงความจำนง และติดตามข้อมูลกรณีการดำเนินการหลังการเพิกถอนใบอนุญาตฯ ทั้งหมด ได้ที่เว็บไซต์ศูนย์ประสานงานรับเรื่องร้องทุกข์มหาวิทยาลัยอีสาน www.esu55.com ซึ่งเมื่อรวบรวมรายชื่อแล้วเสร็จจะดำเนินการเสนอชื่อต่อคณะกรรมการควบคุมฯ เพื่อขออนุมัติปริญญาแก่นักศึกษากลุ่มนี้เป็นกรณีพิเศษต่อไป” รศ.ดร.สุมนต์ กล่าว...
 ที่มา : เดลินิวส์

แสดงความคิดเห็น