ข่าวการศึกษา

บทความการศึกษา

ข่าวเรียกบรรจุครูผู้ช่วย

ข่าวสอบพนักงานราชการ

ข่าวสอบครูอัตราจ้าง

สอบธุรการ

ครม.ไฟเขียวเพิ่มเงินพิเศษให้ครูการศึกษาพิเศษ

        ครม.รับทราบร่างระเบียบ ก.ค.ศ.เพิ่มเงินพิเศษให้ครูการศึกษาพิเศษ และครูการศึกษาพิเศษกรณีเรียนร่วม ให้ได้ค่าตอบแทน 2,500 บาทต่อเดือน จากเดิม 2,000 บาทต่อเดือน ขณะที่ เลขาธิการ ก.ค.ศ.แจงครูการศึกษาพิเศษไม่ได้ร้องขอเพิ่มค่าตอบแทน แต่ ก.ค.ศ.ต้องการปรับให้สอดคล้องกับข้าราชการกลุ่มเดียวกันตามที่ ก.พ.กำหนด เผย มีครูการศึกษาพิเศษได้รับอานิสงส์ครั้งนี้ จำนวน 2,154 คน
 
       วันนี้ (4 ธ.ค.) นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ ประชุม ครม.รับทราบตามที่ ศธ.เสนอ ร่างระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาที่ปฏิบัติหน้าที่ครูการศึกษาพิเศษและครูการศึกษาพิเศษกรณีเรียน ร่วม พ.ศ... ซึ่งร่างระเบียบดังกล่าวได้กำหนดให้จ่ายเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุ พิเศษ (พ.ค.ศ.) ให้ข้าราชการครูฯเดือนละ 2,500 บาท จากเดิมที่ได้เพียงเดือนละ 2,000 บาทเท่านั้น โดยข้าราชการครูที่ได้จะรับเงินเพิ่มนี้ ประกอบด้วย ครูการศึกษาพิเศษ ครูการศึกษาพิเศษกรณีเรียนร่วม ครูประจำชั้นพิเศษกรณีเรียนร่วม ครูเสริมวิชาการกรณีเรียนร่วม ครูประจำชั้นกรณีเรียนร่วม และครูเดินสอนกรณีเรียนร่วม
      
       ทั้งนี้ ครูกลุ่มนี้ต้องปฏิบัติหน้าที่การสอนตามที่กำหนดไว้ อาทิ ข้าราชการครูฯ ตำแหน่งซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้สอนในสถานศึกษาและได้ปฏิบัติหน้าที่ครูการศึกษา พิเศษต้องมีเวลาทำการสอนไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 18 หน่วยชั่วโมง ข้าราชการครูฯตำแหน่งซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้บริหารและให้การศึกษาในสถานศึกษา ที่ปฏิบัติงานในฐานะรองผู้อำนวยการสถานศึกษาในสถานศึกษาที่เปิดสอนเฉพาะคน พิการและได้ปฏิบัติหน้าที่ครูการศึกษาพิเศษ ต้องมีเวลาทำการสอนไม่น้อยกกว่าสัปดาห์ละ 8 ชั่วโมง ข้าราชการครูฯซึ่งมีหน้าที่เป็นครูประจำชั้นพิเศษกรณีเรียนร่วม ต้องมีเวลาทำการสอนและหรือมีเวลาปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน คนพิการไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 18 ชั่วโมง และรับผิดชอบสอนคนพิการไม่น้อยกว่า 6 คน เป็นต้น
      
       ด้านนางรัตนา ศรีเหรัญ เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวว่า มีข้าราชการครูฯ จำนวน 2,145 คนทั่วประเทศที่ปฏิบัติหน้าที่สอนอยู่ในโรงเรียนปกติและโรงเรียนพิเศษที่ จัดการศึกษาให้นักเรียนที่มีความบกพร่องทางร่างกายจะได้รับเงิน พ.ค.ศ.เดือนละ 2,500 บาท โดยการปรับเงินเพิ่มดังกล่าวไม่ได้เป็นข้อเรียกร้องของข้าราชการครูฯกลุ่ม นี้ แต่ทาง ก.ค.ศ.เป็นผู้พิจารณาเองและเห็นว่าควรจะต้องปรับเงิน พ.ค.ศ.ให้ข้าราชการครูฯกลุ่มนี้ให้สอดคล้องกับเงิน พ.ค.ศ.ของทุกส่วนราชการสำหรับตำแหน่ง ประเภทวิชาการตามที่กำหนดในระเบียบ ก.พ.ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2552 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ ก.พ.กำหนดให้เป็นตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษให้ได้รับเงิน พ.ค.ศ.เดือนละ 2,500 บาท โดยจะใช้งบประมาณปีละประมาณ 64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 12 ล้านบาท
      
       สำหรับร่างระเบียบ ก.ค.ศ.มีสาระสำคัญ ดังนี้ 1.กำหนด ให้ยกเลิกระเบียบ ก.ค.ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของครูการศึกษาพิเศษและครู การศึกษาพิเศษกรณีเรียนร่วม พ.ศ.2539 2.กำหนดให้จ่ายเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษที่จ่ายควบกับเงินเดือน ในอัตราเดือนละ 2,500 บาท 3.กำหนดให้การได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษในตำแหน่งครูการ ศึกษาพิเศษ และครูการศึกษาพิเศษกรณีเรียนร่วม เป็นไปตามตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด 4.กำหนดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการจ่ายเงิน การงดจ่ายเงินและการส่งเงินคืนเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ และ 5.กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาซึ่งมีสิทธิได้รับเงินเพิ่ม สำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษอยู่แล้วในวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตามระเบียบนี้
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ ศธ.ยังขอความเห็นชอบ การปรับระบบบริหารงานบุคคลข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา โดยขอความเห็นชอบร่างกฎ ก.พ.อ.การได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) ตรวจพิจารณาแล้ว
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาระสำคัญของร่างกฎ ก.พ.อ.เป็นการกำหนดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาอาจได้รับเงินประจำ ตำแหน่งตามบัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ท้ายกฎ ก.พ.อ.นี้ กำหนดให้นำหลักเกณฑ์และวิธีการการจ่ายเงินประจำตำแหน่งตามพระราชกฤษฎีกาว่า ด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการการจ่ายเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรง ตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ พ.ศ.2539 มาใช้บังคับกับการจ่ายเงินประจำตำแหน่งตามกฎ ก.พ.อ.นี้โดยอนุโลม
      
       กำหนดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตำแหน่งวิชาการตามที่ กำหนด และตำแหน่งอื่นตามที่ ก.พ.อ.กำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีได้รับเงินประจำตำแหน่ง และจะได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตราใดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่ ก.พ.อ.ประกาศกำหนด
      
       กำหนดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตำแหน่งประเภทผู้บริหาร ตามที่กำหนด และตำแหน่งอื่นตามที่ ก.พ.อ.กำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีได้รับเงินประจำตำแหน่ง การได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตราใดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่ ก.พ.อ.ประกาศกำหนด
      
       กำหนดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตำแหน่งประเภทวิชาชีพ เฉพาะ (วช.) ตามที่กำหนด ได้รับเงินประจำตำแหน่งตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่ ก.พ.อ.ประกาศกำหนด แต่ให้ได้รับไม่ก่อนวันที่ 21 กันยายน 2553
      
       กำหนดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตำแหน่งประเภทเชี่ยวชาญ เฉพาะ (ชช.) ตามที่กำหนด ได้รับเงินประจำตำแหน่ง แต่ให้ได้รับไม่ก่อนวันที่ 21 กันยายน 2553 และกำหนดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรง ตำแหน่งตามข้อ 4.3 ข้อ 4.4 ข้อ 4.5 และข้อ 4.6 ตำแหน่งใด ระดับใด และปฏิบัติหน้าที่หลักของตำแหน่งดังกล่าวให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตรา สำหรับตำแหน่งนั้น
      
       กำหนดให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้รักษาราชการแทนหรือรักษาการในตำแหน่ง ประเภทผู้บริหารที่มีวาระการดำรงตำแหน่งตามที่กำหนด ได้รับเงินประตำแหน่งในอัตราที่กำหนดไว้ในตำแหน่งนั้นนับแต่วันที่เข้า ปฏิบัติหน้าที่ จนถึงวันที่พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่แต่ต้องไม่เกินหกเดือน
      
       กำหนดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง อาจารย์ 3 ตำแหน่งครู หรือตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตามที่กำหนด ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตราตามตำแหน่งที่กำหนด นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง


ที่มา : ผู้จัดการ

แสดงความคิดเห็น