“พงศ์เทพ”
ประสานข้อมูลดีเอสไอฟันวินัย 2 ขรก.ทุจริตครุภัณฑ์ ยัน
ไม่ได้กลั่นแกล้งฝ่ายค้านช่วงศึกซักฟอก แย้ม
ผู้ขายครุภัณฑ์อาจโดนเอาผิดทางแพ่งด้วย
วันนี้ (13 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา
รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ
กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษาตามโครงการภาย
ใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง (เอสพี2) ว่า ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ
เห็นว่า มีข้าราชการซึ่งขณะนี้ยังรับราชการอยู่จำนวน 2 คน
ที่มีชื่ออยู่ในการแถลงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ด้วย
ตนจึงให้เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาทำหนังสือไปถึงอธิบดีดีเอสไอ
เพื่อจะขอข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำของข้าราชการทั้ง 2 คน
ที่ถูกอ้างอิงว่ามีการกระทำใดที่จะสามารถจะบอกเราในชั้นนี้ได้
เพื่อที่ทางกระทรวงจะได้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ขณะเดียวกัน
ในเรื่องของการสอบทางวินัยก็ยังดำเนินไปอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้าน มองว่า
เรื่องนี้เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองในช่วงของการอภิปราย ไม่ไว้วางใจ
นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ดีเอสไอได้ทำมาตั้งนานแล้ว
ในส่วนของกระทรวงไม่ได้เข้าไปแทรกแซงในส่วนของดีเอสไอเพราะเป็นเรื่องของคดี
อาญา
และทางดีเอสไอเองก็จะต้องส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ
ทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย เรื่องนี้ กลั่นแกล้งกันไม่ได้
หลักฐานเป็นอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น
และสุดท้ายหากเป็นคดีอาญาก็ต้องไปจบที่ศาล
หรือหากจะมีกระบวนการในเรื่องของการถอดถอนก็ต้องไปจบที่วุฒิสภา
ฉะนั้นรัฐบาลไม่สามารถไปกลั่นแกล้งใครหรือคิดจะไปกลั่นแกล้งใครอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีต
รมว.ศึกษาธิการ ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะได้มอบอำนาจให้อดีต
รมช.ศึกษาธิการ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า
ตนไม่ทราบในรายละเอียดของการสืบสวนของดีเอสไอว่ามีข้อมูลอะไร แต่ทั้งนี้
ตามกระบวนการนั้นการนำเรื่องเสนอเข้าครม.จะต้องเสนอผ่าน รมว.ศึกษาธิการ
อย่างไรก็ตาม
เรายังไม่สามารถพูดอะไรได้เพราะยังไม่เห็นสำนวนสืบสวนของดีเอสไอ
เมื่อถามอีกว่า เรื่องการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวจะได้ข้อยุติในเร็ววันหรือไม่
เพราะหลักฐานค่อนข้างชัดเจน นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ตรงนี้ชัดเจนว่า
มีหลายรายการที่แพงมาก คุณภาพผิดสเปก
และผู้รับไม่ได้ต้องการหรือประสงค์จะใช้เลย แต่เรื่องทางอาญาเป็นเรื่องของ
ป.ป.ช.และดีเอสไอ กำลังดำเนินการอยู่
ส่วนกระทรวงนั้นมีอำนาจทางวินัยเท่านั้น
เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรกับครุภัณฑ์ที่จัดซื้อมาแต่ไม่ได้ใช้งาน รองนายกฯ กล่าวว่า กรณีการ
รับผิดทางแพ่งก็จะเป็นอีกส่วนหนึ่งนอกเหนือการรับผิดทางอาญา
เพราะครุภัณฑ์หลายอย่างผิดสเปก ซึ่งก็จะต้องดำเนินการกับทางผู้ที่ขายด้วย
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า
รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)
ไปประสานขอข้อมูลที่ดีเอสไอเพื่อมาดูว่าในส่วนของ สอศ.
จะดำเนินการอย่างไรต่อไป วานนี้ (12 พ.ย.) ตนได้หารือเบื้องต้นกับ
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.)
ก็ขอให้ไปดูข้อมูลเชิงลึกจากดีเอสไอด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้หารือกับ นายพงศ์เทพ แล้วหรือยังกรณีที่
นายพงศ์เทพ ได้มอบให้ไปศึกษาว่า ศธ.มีอำนาจสั่งพักราชการข้าราชการประจำ 2
ราย คือ นายเจี่ยง และ นายบำรุง ซึ่งปรากฏชื่อว่า
มีส่วนเกี่ยวกับการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า
ในทางราชการนั้น การพักราชการสามารถทำได้
เพื่อประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ
ที่อาจมีความกังวลว่าหากบุคคลที่ถูกชี้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องยังปฏิบัติ
งานอยู่
อาจจะไม่สามารถดำเนินการสืบสวนข้อมูลได้เท่าที่ควรเพราะหวาดกลัวในอิทธิพล
เป็นต้น อย่างไรก็ตาม
จะต้องรอดูสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอก่อนจึงค่อยพิจารณาว่าจะดำเนินการใดๆ
กับข้าราชการประจำทั้ง 2 รายหรือไม่ และจริงๆ
แล้วการสอบสวนของดีเอสไอยังไม่ใช่การตัดสินของศาลจึงต้องพิจารณาให้รอบคอบ
ก่อนดำเนินการใดๆ ลงไป
แต่หากเป็นกรณีที่สำนักป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ได้ชี้มูลความผิดมาแล้วก็สามารถสั่งให้ข้าราชการผู้นั้นออกจากราชการก่อน
ระหว่างที่ดำเนินการสอบสวน
ถามต่อว่า ขณะนี้ยังมีข้อกังขาในส่วนของ น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์
เลขาธิการสภาการศึกษา และอดีตเลขาธิการ
กอศ.ที่เคยถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงทำไมถึงไม่อยู่ในรายชื่อผู้มีส่วน
เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้
คงต้องเป็นตามกระบวนการตรวจสอบของดีเอสไอ หากกระบวนการบอกว่าไม่ผิด แสดงว่า
พยานหลักฐานเพียงพอ ไม่สามารถผูกมัดว่าเขามีความผิดได้
ที่มา : ผู้จัดการ